เซรั่มหน้าใส วิธีเลือกใช้ให้เหมาะกับผิวหน้าของตัวเอง

การดูแลผิวหน้าด้วย เซรั่มหน้าใส  ถือเป็นสกินแคร์เบอร์ต้น ๆ ที่ปัจจุบันนิยมมากที่สุดเพราะถูกผลิตออกมาด้วยส่วนผสมที่เข้มข้น มีส่วนผสมด้วยวิตามินหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น สารสกัดจากธรรมชาติ วิตามินแร่ธาตุต่าง ๆ สารแอนตี้ออกซิแดนท์ ฯลฯ ที่ช่วยทำให้ผิวดวงกระจ่างใส ช่วยฟื้นฟูผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวหน้าดูดีขึ้น ซึ่งการเลือกใช้เซรั่มให้มีประสิทธิภาพมากที่สุดสิ่งสำคัญก็คือเลือกให้ตรงกับสภาพผิวของตัวเอง ไม่เช่นนั้นนอกจากผิวหน้าจะไม่ขาวใสแล้ว ก็อาจจะส่งผลข้างเคียงได้อีกด้วย

เซรั่มหน้าใส สำหรับผิวแต่ละประเภท

โดยทั่วไปผิวจะแบ่งได้เป็น 4 ประเภทหลัก ๆ คือ ผิวมัน ผิวแห้ง ผิวผสม และผิวแพ้ง่าย การเลือกใช้เซรั่มก็จะแบ่งย่อยออกไปก็จะแบ่งออกเป็น 4 ประเภทตามสภาพผิวด้วยเช่นกันเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และมั่นใจได้ว่าจะไม่ส่งผลเสียต่อผิวซึ่งรายละเอียดการเลือกใช้ก็มีดังนี้

ผิวมัน – คนที่มีผิวมันควรเลือกใช้เซรั่มที่มีสรรพคุณช่วยลดความมัน ซึมเข้าสู่ผิวหนังง่าย เนื้อเซรั่มบางเบา ช่วยผลัดเซลล์ผิวเสีย คืนความกระจ่างใส กระชับรูขุมขน หากมีคุณสมบัติช่วยป้องกันการเกิดสิวก็จะดีมาก เพราะคนที่มีผิวมันโอกาสมีปัญหาเรื่องสิวนั้นมีง่ายกว่าผิวประเภทอื่น ๆ

ผิวแห้ง –  คนผิวที่มีผิวแห้ง เซรั่มหน้าใส ควรเป็นแบบสูตรเข้มข้น หรือสูตรออยล์ เพื่อเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ส่งผลให้ผิวแข็งแรง สดชื่น มีความยืดหยุ่น และยังช่วยลดริ้วรอยต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย

ผิวผสม – คนที่มีผิวผสม เซรั่มหน้าใส ที่ควรใช้ต้องช่วยปรับสมดุลของผิวหน้าทั้งบริเวณ T-Zone และบริเวณแก้มเพื่อปรับสภาพให้ผิวมีความใกล้เคียงกัน

ผิวแพ้ง่าย – คนที่ผิวแพ้ง่ายควรเลือกใช้เซรั่มที่มีความบางเบา ไม่มีส่วนผสมสารเคมีที่จะทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคือง เช่นสารเคมีต่าง ๆ แอลกอฮอล์ พาราเบน เป็นต้น นอกจากนี้ต้องผ่านผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนังว่าเมื่อใช้แล้วจะปลอดภัยไม่มีผลข้างเคียงตามมา

ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์ เซรั่มหน้าใส มีหลากหลายสูตรให้เลือกใช้ซึ่งก็มีส่วนผสมแตกต่างกันออกไป ดังนั้นนอกจากจะพิจารณาเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผิวตัวเองแล้วยังควรต้องดูส่วนผสมต่าง ๆ โดยเน้นไปที่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ และไม่ใช่สารเคมี (หากมีควรให้มีน้อยที่สุด) ต้องผ่านการรับรอง หรืออาจจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมเป็นแบรนด์ดัง ก็จะช่วยทำให้มั่นใจได้ว่าเป็นเซรั่มที่มีคุณภาพ ใช้แล้วไม่ก่อผลเสียผลข้างเคียงต่าง ๆ ต่อใบหน้า จนต้องเสียเวลาเสียเงินในการรักษานั่นเอง