โรคเมลิออยโดสิส ภัยร้ายในหน้าฝน

ช่วงหน้าฝนเป็นช่วงที่อากาศชื้น หลายคนมักเป็นหวัด มีไข้ เพราะโดนน้ำฝน หลายคนมีอาการจาม แน่นจมูก ด้วยอาการของโรคภูมิแพ้อากาศ แต่ยังมีอีกโรคที่อาจจะไม่คุ้นหูกันนัก มีชื่อว่า “เมลิออยโดสิส” แต่เสี่ยงอันตรายถึงขึ้นเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะคนที่ต้องทำงานสัมผัสดินและน้ำบ่อยๆในช่วงนี้

โรคเมลิออยโดสิส คืออะไร 

โรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Burkholderia pseudomallei (B. pseudomallei) ซึ่งเป็นแบคทีเรียฺแกรมลบ ที่ก่อโรคในคนและสัตว์ในเขตร้อนชื้น ในประเทศไทยพบโรคนี้มากในภาคอีสานเกิดขึ้นบ่อยกับคนที่ทำอาชีพเกษตรกรรมที่ต้องสัมผัสดินและน้ำเป็นประจำ เพราะเชื้อแบคทีเรียตัวนี้แพร่กระจายอยู่ในดินและน้ำ ทำให้เกิดอาการติดเชื้อส่วนต่าง ๆ เช่น ผิวหนัง ปอด กระแสเลือด และอวัยวะภายในต่าง ๆ เช่น สมอง ตับ และไต 

ติดเชื้อได้ทางไหนบ้าง ? 

  • บาดแผลที่ผิวหนัง 
  • ดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารที่ปนเปื้อน 
  • หายใจรับฝุ่นละอองที่มีเชื้อปนเปื้อน 

การติดเชื้อในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย 

  • ผิวหนัง เกิดแผลเรื้อรัง ฝี หนอง และมีตุ่มขึ้น 
  • ปอด มีอาการไข้ขึ้น ไอ มีเสมหะ 
  • กระแสเลือด เกิดขึ้นในกรณีที่มีบาดแผล เพราะเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผลทำให้มีอาการไข้สูง ความดันเลือดต่ำ ช็อก เป็นฝีในตับหรือในม้าม และถึงขั้นเสียชีวิตได้ 

อาการ 

สำหรับอาการของโรคเมลิออโดสิสนั้นมีหลากหลายตั้งแต่ไม่มีอาการเลย หรือมีอาการดังต่อไปนี้ 

1.เกิดฝีหรือหนองที่ผิวหนัง 

2.ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ 

3.มีไข้สูง 

4.ไอ หายใจติดขัด 

5.ปวดท้อง 

6.เจ็บหน้าอก 

7.เกิดแผลเรื้อรัง 

อาการและความรุนแรงของโรคขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันของแต่ละบุคคลและปริมาณของเชื้อที่ได้รับ หากมีอาการรุนแรงมากขึ้นควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อป้องกันเชื้อเข้าสู่กระแสเลือด 

วิธีรักษา 

ฉีดยาปฏิชีวนะต่อเนื่องอย่างน้อย 2 สัปดาห์แรกและรับประทานยาปฏิชีวนะต่อประมาณ 3 เดือน 

วิธีป้องกัน 

1.รับประทานอาหารปรุงสุก สะอาด ไม่มีสารปนเปื้อน  

2.ดื่มน้ำสะอาด 

3.หลีกเลี่ยงการเหยียบดิน ลุยน้ำ หรือสัมผัสดินโดยตรง ในช่วงฤดูฝน หากจำเป็นควรสวมรองเท้าบูท ถุงมือยาง กางเกงขายาวหรือชุดลุยน้ำ 

4.หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่ง หากมีฝนตกหรือสภาพอากาศแปรปวน 

5.หากเกิดแผลรีบทำความสะอาดแผลด้วยน้ำสะอาดและยาฆ่าเชื้อต่าง ๆ 

โรคเมลิออยโดสิสเป็นโรคติดเชื้อที่เกิดขึ้นมากในฤดูฝน ซึ่งส่วนมากเกิดกับผู้ทำงานกับดินและน้ำ เชื้อเข้าผ่านบาดแผน การสำลักหรือกลืนน้ำ รวมถึงหายใจเอาละอองฝุ่นของดินที่มีเชื้อเข้าไป หากมีอาการผิดปกติหรือสงสัยควรพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการวินิจฉัยโรคและรักษา เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิต